โรคกระดูกสันหลัง
สาเหตุ : เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ความเสื่อมสภาพตามอายุ พฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ลักษณะการทำงาน เช่น การยกของหนัก การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น รวมถึงจากอุบัติเหตุ
อาการ : ผู้ป่วยมักมีอาการปวดหลังบริเวณเอว คอ สะบัก มีอาการชาหรืออ่อนแรง อาจมีอาการปวดร้าวลงที่ขา จากการกดทับเส้นประสาทของกระดูกสันหลัง หรือมีไข้สูงที่เกิดจากการติดเชื้อ ซึ่งอาการปวดต่างๆ เป็นสาเหตุของโรคกระดูกสันหลังที่รุนแรงได้ เช่น
- โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท (Intervertebral disc herniation)
- โรคกระดูกสันหลังเคลื่อน (Spondylolisthesis)
- โรคข้อสันหลังอักเสบยึดติด (Ankylosing Spondylitis)
- โรคช่องไขสันหลังตีบ (Spinal stenosis)
- โรคกระดูกสันหลังส่วนคอเสื่อม (Cervical spondylosis)
การป้องกัน : ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่
- ลดน้ำหนัก น้ำหนักตัวที่มากเกินไป ส่งผลให้หลังและเอวต้องรับน้ำหนักตัวที่มาก
- ออกกำลังกาย การเสริมสร้างกล้ามเนื้อบริเวณท้องและหลังให้แข็งแรงขึ้น
- นั่งและยืนในท่าที่ถูกต้อง โดยยืดหลังให้ตรง ผายไหล่ออก ไม่นั่งไขว่ห้างหรือเท้าคาง
- ไม่นั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานาน ควรเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 20-45 นาที
- ไม่ควรยกของหนัก หากมีความจำเป็นควรอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง โดยหลังตรง งอเข่า แยกเท้าและถ่ายเทน้ำหนักของเท้าทั้ง 2 ข้างให้เท่ากัน ไม่บิดเอว
- รับประทานแคลเซียมและวิตามินดี เพื่อเสริมสร้างกระดูกและป้องกันกระดูกพรุน เช่น นม ผักใบเขียว ไข่แดง และปลาที่มีไขมันดี
- งดสูบบุหรี่ ซึ่งส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิตที่จะส่งไปเลี้ยงกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นบริเวณหลัง
การรักษา : โดยแพทย์จะพิจารณาการรักษาจากสาเหตุของการเกิดโรค
- หากผู้ป่วยมีอาการไม่รุนแรง อาจรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การใช้ยา การทำกายภาพบำบัด
- กรณีที่มีอาการมากหรือเรื้อรัง แพทย์อาจต้องใช้การผ่าตัด ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพการผ่าตัดกระดูกสันหลังผ่านกล้องจุลศัลยกรรม OPMI PENTERO 800 ที่มีกำลังขยายถึง 39 เท่า ประกอบกับเทคโนโลยีเรืองแสงระหว่างการผ่าตัด มีการแยกระบบแสดงภาพวิดีโอ ภาพจึงมีความคมชัดแบบเรียลไทม์ สามารถมองเห็นโครงสร้างต่างๆได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
ด้วยความปรารถนาดีจาก.. ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลหัวเฉียว