เหตุผล..ที่ผู้ประกันตนไว้วางใจให้โรงพยาบาลหัวเฉียว ดูแลสุขภาพ..
![](https://www.hc-hospital.com/wp-content/uploads/2023/12/sukieat.jpg)
คุณชูเกียรติ โอภาสจินดา
ผู้ป่วยภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้อง
“ก่อนที่ผมจะพบว่าตัวเองเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้อง ผมต้องบอกก่อนว่าผมมีโรคประจำตัวเป็นโรคความดันสูง หัวใจโต ปอดมีปัญหา ซึ่งโรคทั้งหมดนี้เกิดจากเมื่อก่อนผมเป็นคนที่สูบบุหรี่หนักมาก แต่ปัจจุบันผมเลิกสูบบุหรี่แล้วครับ
ก่อนหน้าที่จะรู้ตัวว่าเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้องนั้น ผมมีอาการเบื้องต้น คือ ปวดท้อง แต่ไม่ได้ปวดมาก แค่นิดๆ หน่อยๆ ผมเลยซื้อยาแก้ปวดท้องมากินเอง อาการปวดก็ไม่หายขาด แต่กลับมีอาการรุนแรงมากขึ้นจนผมเกือบหมดสติ ผมจึงรีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว
แพทย์ได้ตรวจวินิจฉัยและประเมินอาการของผม พบว่าผมเป็นโรคหลอดเลือดแดงใหญ่โป่งพองในช่องท้อง จึงรีบทำการรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดสอดสายสวนเพื่อรักษาโรคหลอดเลือดโป่งพองในช่องท้อง หรือ EVAR จนปัจจุบันตอนนี้ผมอาการดีขึ้น แพทย์ก็ติดตามอาการผมทุกๆ 6 เดือน และที่สำคัญ แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหัวเฉียวดูแล ให้คำแนะนำปรึกษาดี สุภาพ ผมประทับใจและจะแนะนำญาติหรือคนรู้จักให้มารักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียวครับ”
![](https://www.hc-hospital.com/wp-content/uploads/2023/12/kanin.jpg)
คุณคนินทร์ เตชวิตพงศ์
ผู้ป่วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ
“เริ่มแรกผมมีอาการแน่นหน้าอก เวลากินอิ่มมากๆ จะเริ่มมีอาการแน่นหน้าอกมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เป็นไม่บ่อยมากนัก โดยตอนแรกคิดว่ามาจากการกินที่มากเกินไปเลยจุกหรือเป็นกรดไหลย้อน แต่ได้มีโอกาสไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลอื่น คุณหมอเลยให้เช็คโดยการวิ่งสายพาน พอเช็คเสร็จ กราฟมันก็แสดงให้เห็นว่าผมมีสิทธิที่จะเป็นโรคหัวใจ ตั้งแต่นั้นเลยระวังตัวเอาไว้ แต่อยู่มาวันหนึ่งผมเดินๆ อยู่ และมีอาการของโรคหัวใจขึ้นมา เป็นอาการหัวใจล้มเหลว หัวใจหยุดเต้นไปแล้ว ตอนนั้นพอดีมีคนในพื้นที่เห็นผมล้มลงไปจึงได้เข้ามาปั้มหัวใจช่วยขึ้นมา และนำตัวมาส่งที่โรงพยาบาลหัวเฉียว เพราะสิทธิประกันสังคมผมอยู่ที่นี่ โดยมีคุณหมอสุรพงษ์ เป็นผู้ทำการรักษาผม
หลังจากรักษาแล้วมีอาการที่ดีขึ้น อาการแน่นหน้าอกก็ไม่มี หายใจสะดวกขึ้น แต่ก็ให้ระวังการทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งคุณหมอก็แจ้งไว้แล้ว คุณหมอให้การรักษาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูล มีการพูดคุยว่าจะต้องทำการรักษาอย่างไรบ้าง ทำให้เรารู้สึกสบายใจ ไม่กลัว ประทับใจเกือบหมดทุกอย่าง คุณหมอก็รักษาเก่ง ให้ข้อมูลที่ดี พยาบาลก็ให้การบริการดี ดูแลตั้งแต่เราอยู่ที่ห้องนี้ตลอด อยู่แล้วอบอุ่นมาก ไม่กลัวอะไรเลย หากต้องมารักษาอีกจะเลือกที่นี่เป็นอันดับแรก เพราะมีการบริการที่ดีและสิทธิประกันสังคม เราก็อยู่ที่นี่ด้วย แต่ถึงแม้ว่าไม่มีสิทธิประกันสังคมในการรักษาผมก็เลือกที่นี่เป็นอันดับแรก เพราะมั่นใจ คุณภาพการรักษา คุณหมอ พยาบาล”
![](https://www.hc-hospital.com/wp-content/uploads/2023/12/surapong.jpg)
นายแพทย์.สุรพงษ์ วรสุวรรณรักษ์
แพทย์หัวหน้าศูนย์หัวใจและหลอดเลือด สาขาอายุรศาสตร์ อนุสาขาอายุรศาสตร์ โรคหัวใจและหัตถการปฏิบัติและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด และแพทย์หัวหน้าแผนกอายุรกรรม
ผู้ป่วยมาพบหมอด้วยอาการหมดสติ ซึ่งเหตุเกิดจากขณะที่ทำงานได้พานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปชมคอนเสิร์ต ในขณะที่ชมคอนเสิร์ตอยู่นั้น ผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอกและหมดสติไป แต่โชคดีที่ในที่เกิดเหตุมีเครื่องกระตุกหัวใจ คนในพื้นที่ต่างช่วยเหลือและรีบนำส่งมายังโรงพยาบาล
เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจึงได้ตรวจอาการของผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยมีอาการหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน กราฟหัวใจผิดปกติ ทางทีมแพทย์และพยาบาลจึงได้สวนหัวใจผู้ป่วยและได้เจอเส้นเลือดตีบรุนแรงตรงขั้วหัวใจ 1 จุด และเส้นเลือดตีบตันอีก 1 จุด รวมเป็น 2 จุด และกรณีนี้เป็นกรณีฉุกเฉินจึงเลือกรักษาจุดที่ร้ายแรงแรงก่อน คือ ตรงเส้นเลือดตีบรุนแรงตรงขั้วหัวใจ โดยการใส่บอลลูนขดลวดเข้าไป และให้ผู้ป่วยพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน และกลับบ้าน
หลังจากนั้นก็ตรวจติดตามมาตลอดและนัดหมายให้มารักษา จุดที่ 2 วันที่ 28 พฤศจิกายน 2561 ที่เส้นเลือดตีบตันข้างขวาตรงส่วนปลาย โดยการนำลวดแทงทะลุจุดตันและใส่ตัวหัวอัลตราซาวน์เข้าไปเช็คว่าลวดอยู่ในหลอดเลือดที่ตันหรือไม่ ดูขนาด ดูตำแหน่งและทำบอลลูนใส่ขดลวด เพิ่มไปอีกสองตัวข้างขวา ซึ่งหลังจากการทำผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นตามลำดับ
สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจเกิดจากปัจจัยเสี่ยง 5 อย่าง ได้แก่
- อายุ (ผู้ชายที่มีอายุเกิน 55 ปี ผู้หญิงที่มีอายุเกิน 45 ปี)
- โรคเบาหวาน
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคไขมันในเลือดสูง
- การสูบบุหรี่
ซึ่ง 5 ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่าอายุ เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่อีก 4 ข้อที่เหลือเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ เช่น เบาหวาน เราก็ต้องคุมน้ำตาล การรับประทานอาหารที่ดี โรคความดันโลหิตสูง งดการรับประทานเค็ม อย่ากินมัน และโรคไขมันในเลือดสูงก็เช่นกัน ซึ่ง 3 โรคนี้มันเป็นโรคที่อยู่ร่วมกัน ดังนั้นทุกอย่างเราจะต้องตรวจติดตาม กินยาต่อเนื่อง ตรวจค่าเลือด ค่าความดันให้ปกติ ค่าน้ำตาล ค่าไขมัน และสุดท้ายสำหรับผู้ที่สูบบุหรี่ ผู้ที่สูบบุหรี่อยู่ก็ต้องหาวิธีเลิกให้ได้ ผู้ที่ไม่สูบก็อย่าไปลอง เพราะทั้งหมดนี้ มันเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เราปรับเปลี่ยนได้ โอกาสที่เราจะเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจก็น้อยลง แต่ถ้ามีอาการ แน่นหน้าอก แน่นตรงกลาง เสียด หายใจไม่ออก แน่นเป็นพักๆ เวลาออกแรงแน่นจนร้าวขึ้นกรามสองข้าง หรือร้าวไปที่หัวไหล่ ร้าวไปที่ท้องแขนข้างซ้าย เหนื่อยง่าย หน้ามืด เป็นลมหมดสติ ซึ่งถ้ามีอาการนี้อาจจะเกิดหัวใจขาดเลือด ต้องรีบมาพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
![](https://www.hc-hospital.com/wp-content/uploads/2023/12/buskron2.jpg)
คุณบุศกรณ์ เจริญวงศ์สิริกุล
ผู้ป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี
” ดิฉันมีอาการปวดจุกแน่นท้อง ปวดรุนแรงมากค่ะ ปวดไปถึงหลัง ตอนมาถึงโรงพยาบาลหัวเฉียว คุณหมอต้องฉีดยา ระงับปวดให้ แล้วส่งตรวจเลือด ตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้อง ก็พบว่าเป็นนิ่วในถุงน้ำดีอักเสบ คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัด ดิฉันกลัวการผ่าตัดมากค่ะ และถ้าต้องพักฟื้นนาน ก็กลัวจะกระทบต่อการทำงานต้องหยุดงานนาน แต่คุณหมอแนะนำว่า ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว สามารถผ่าตัดด้วยวิธีการสมัยใหม่ผ่านทางการส่องกล้อง มีแผลเล็กๆ ที่หน้าท้องเพียง 3 – 4 แผล เท่านั้น การพักฟื้นใช้เวลาน้อยกว่าการผ่าตัดทั่วไปมาก “
คุณหมอมีความใส่ใจดิฉันมาก หัวใจดิฉันเต้นผิดปกติ คุณหมอช่วยส่งให้อายุรแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจ ตรวจสอบให้ก่อน ให้ดิฉันวิ่งสายพาน เมื่อผลการรักษาปกติแล้วจึงให้ดิฉันเข้ารับการผ่าตัด ดมยาสลบ ผลการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง สำเร็จด้วยดีค่ะ ดิฉันดีใจมาก มีอาการปวดไม่มาก และพื้นตัวเร็วกว่าที่คิดจริงๆ ค่ะ
คุณหมอให้ความสำคัญกับปัญหาของผู้ป่วย ทำให้ดิฉันประทับใจมากไม่คาดคิดว่าใช้สิทธิประกันสังคมจะได้รับบริการที่ดี อย่างนี้ ทั้งจากคุณหมอที่เก่ง คุณพยาบาลก็พูดจาดีเอาใจใส่ดีมากค่ะ ดิฉันจะแนะนำเพื่อนๆ ให้เลือกรักษาพยาบาลกับ โรงพยาบาลหัวเฉียวค่ะ “
![](https://www.hc-hospital.com/wp-content/uploads/2023/12/pronchai.jpg)
คุณพรชัย ลิ้มปิยวรรณ
ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
ผมและครอบครัว ไว้วางใจใช้บริการของโรงพยาบาลหัวเฉียวมาหลายสิบปีแล้วครับ ผมเลือกประกันสังคมที่นี่ด้วยเพราะเป็นโรงพยาบาลที่มีมาตรฐานในการดูแลรักษา แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่มีความตั้งใจทำงาน เอาใจใส่คนไข้และเป็นกันเอง
ผมได้มีโอกาสเข้าร่วมกิจกรรมโครงการ “ปรับเปลี่ยนชีวิต พิชิตเบาหวาน” มีแพทย์ พยาบาล นักโภชนากร นักเวชศาสตร์ฟื้นฟู มาสอนให้ความรู้ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกิน การออกกำลังกาย การจัดการความเครียด และการพักผ่อน ตอนนี้ร่างกายผมแข็งแรงขึ้น น้ำหนักลดลงไปได้ 2 กิโลกรัม ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดก็ลดลงด้วยครับ
ต้องขอขอบคุณโรงพยาบาลหัวเฉียว คุณหมอ คุณพยาบาล และทุกๆ คน ที่ช่วยดูแลผม และให้ความรู้ เพราะผมไม่อยากเป็นเป็นโรคเบาหวานที่ต้องกินยาตลอดชีวิต