การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชและศัลยกรรม

การผ่าตัดนรีเวชผ่านกล้อง | แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว

คุณผู้หญิงหลายๆ ท่านคงเป็นกังวลถ้ารู้ว่าตนเองเป็นโรคทางสูตินรีเวช ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดท้องน้อยไม่ทราบสาเหตุ ถุงน้ำรังไข่ เนื้องอกในมดลูก

ปัจจุบัน ได้มีการพัฒนาทั้งในด้านเทคโนโลยีทาง การแพทย์และเครื่องมือที่ทันสมัย จนเกิดการ ผ่าตัดโดยใช้กล้องเข้ามาช่วยลดขนาดของแผล และเพิ่มความคมชัดแม่นยำในการผ่าตัด

ข้อดีของการผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวช

  • แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 0.5 – 1.0 เซนติเมตร
  • การเสียเลือดและปวดแผลน้อยกว่า
  • ใช้เวลาพักฟื้นเพียง 1 – 2 สัปดาห์
  • โอกาสเกิดพังผืดหลังการผ่าตัดน้อยกว่า
  • ลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดและลดการติดเชื้อ

อย่างไรก็ดี คุณผู้หญิงควรหาเวลามาตรวจสุขภาพสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ทำการรักษาหากพบว่าเป็นโรคทางนรีเวชเพราะหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและการรักษาจะยากมากขึ้น

โรคทางนรีเวชที่ใช้วิธีผ่าตัดผ่านกล้อง

  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • ผู้มีบุตรยาก ใช้วิธีนี้เพื่อฉีดสีตรวจดูท่อนำไข่
  • ตั้งครรภ์นอกมดลูก
  • ปวดประจำเดือน หรือปวดท้องน้อยเรื้อรัง
  • เนื้องอกมดลูก โดยตัดเฉพาะเนื้องอกหรือตัดทั้งตัวมดลูก
  • การทำหมัน
  • ฯลฯ

ผ่านิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้อง | แผลเล็ก เจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว

“นิ่วในถึงน้ำดี” เป็นโรคในระบบทางเดินน้ำดีที่พบได้บ่อยมาก และพบว่ามีคนไทยเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีเพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุเกิน 40 ปี หรือผ่านการมีบุตรมาแล้ว

สาเหตุการเกิดนิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากสารประกอบในน้ำดีมีภาวะไม่สมดุลมีลักษณะ เป็นชิ้นส่วนแข็งที่เกิดขึ้นในถุงน้ำดี ชิ้นส่วนเหล่านี้เกิดขึ้นเมื่อส่วนประกอบของน้ำดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งคอเลสเตอรอล และบิลิรูบิน (สารให้สีในน้ำดี) ตกตะกอนผลึกเป็นก้อน คล้ายคลึงกับน้ำตาลที่ตกตะกอน โดยก้อนนิ่วที่เกิดขึ้นนี้ อาจมีขนาดเล็กเท่าเม็ดทรายหรือใหญ่เท่าลูกกอล์ฟ และอาจมีได้ตั้งแต่หนึ่งก้อนจนถึงหลายร้อยก้อน

อาการ : เมื่อเกิดมีนิ่วในถุงน้ำดีขึ้นแล้ว ในบางคนอาจไม่มีอาการใดๆ แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการดังนี้

  • ท้องอืด อาหารไม่ย่อย
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง โดยเฉพาะบริเวณช่องท้องส่วนบน หรือด้านขวา โดยมีระยะเวลาปวดตั้งแต่ 15 นาทีถึงหลาย ชั่วโมง และอาจมีอาการปวดร้าวไปยังบริเวณกระดูกสะบัก หรือบริเวณไหล่ด้านขวา
  • ถ้านิ่วตกลงไปอุดท่อน้ำดี จะทำให้มีอาการตัวเหลืองตาเหลือง

แนวทางการรักษา

ส่วนใหญ่ต้องรับประทานยาเป็นเวลานาน และเมื่อหยุดยาก็อาจเกิดนิ่วในถุงน้ำดีได้อีก การรักษาที่ถาวร คือ วิธีการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก เพื่อไม่ให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดีขึ้น ได้อีก และป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงต่างๆ การผ่าตัดถุงน้ำดีปัจจุบันมี 2 วิธีคือ

  • ผ่าตัดเปิดหน้าท้อง (Open Cholecystectomy)
  • ซึ่งจะเลือกใช้ในการผ่าตัดถุงน้ำดีที่มีอาการอักเสบมากหรือแตกทะลุช่องท้อง
  • ผ่าตัดผ่านกล้อง โดยการเจาะรูเล็กๆ ที่หน้าท้อง (Laparoscopic Cholecystectomy)

ข้อดีของการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้อง

  • แผลมีขนาดเล็ก จึงดูแลง่ายกว่า ทำให้หายเร็วกว่า
  • อาการเจ็บปวดของบาดแผลน้อยกว่าการผ่าตัดแบบเปิด
  • โอกาสติดเชื้อน้อยกว่าแผลขนาดใหญ่ รวมถึงอาการแทรกซ้อนอื่นๆ จากการผ่าตัด น้อยกว่า เช่น ไส้เลื่อนที่แผลผ่าตัด เส้นประสาทที่ผนังหน้าท้องถูกตัดขาด เป็นต้น
  • ระยะเวลาในการรักษาตัวน้อยกว่า การพักฟื้นหลังผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ถ้าผ่าตัดแบบเดิม ใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 1 เดือน (ทั้งนี้ขึ้นกับแนวทางการรักษา และอาการของผู้ป่วยเป็นสำคัญ)

ผู้ป่วยที่เหมาะสมรับการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดีผ่านกล้อง

  • ผู้ป่วยที่มีนิ่วในถุงน้ำดี แต่อาการไม่มาก
  • ผู้ป่วยที่มีนิ่วในถุงน้ำดี และถุงน้ำดีนี้อักเสบเรื้อรัง
  • ผู้ป่วยที่มีนิ่วในถุงน้ำดีอักเสบเฉียบพลัน
  • ผู้ป่วยที่มีนิ่วในถุงน้ำดีอักเสบ ชนิดไม่มีนิ่วทางเดินน้ำดีร่วมด้วย
  • โรคติ่งเนื้อ (POLYP) ในถุงน้ำดี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ แผนกลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 0-2223-1351 ต่อ 3126

การผ่าตัดผ่านกล้องทางนรีเวชและศัลยกรรม
เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan 160 Slices)
เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI
ห้องปฏิบัติการเครื่องฉีดสีสวนหลอดเลือดหัวใจ (Cath lab)