โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), ศูนย์หลอดเลือดสมอง, โรงพยาบาลหัวเฉียว, หัวเฉียว

โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) คือ ภาวะที่สมองขาดเลือดไปเลี้ยง และทำให้เซลล์สมองถูกทำลาย เนื่องจากหลอดเลือดตีบ อุดตัน หรือแตก ทำให้ขัดขวางการลำเลียงเลือดซึ่งนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง ส่งผลให้เนื้อเยื่อในสมองถูกทำลาย เสียหาย และการทำงานของสมองหยุดชะงัก เป็นสาเหตุให้เกิดภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต และเสียชีวิตได้ ซึ่งโรคนี้เป็นสาเหตุการตายอันดับสามรองจากโรคมะเร็งและโรคหัวใจ


โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke): แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
  1. โรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke) เกิดจากการตีบตันบริเวณหลอดเลือดสมองหรือคอ หรือลิ่มเลือดอุดตันบริเวณหลอดเลือดสมองหรือคอ พบได้ร้อยละ 80
  2. โรคหลอดเลือดสมองแตก (Hemorrhagic Stroke) เกิดจากความดันโลหิตสูงหรือเส้นเลือดโป่งพองในสมอง พบได้ร้อยละ 20

การรักษา : ขึ้นอยู่กับสาเหตุว่าเป็นประเภทตีบ อุดตัน หรือแตก โดยจะมีแนวทางการรักษาที่แตกต่างกัน
  • หลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน แพทย์จะให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำในผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์และมาในเวลาที่รวดเร็วภายใน 6 ชั่วโมง เพื่อทำให้เลือดไหลเวียนได้อย่างปกติ
  • หลอดเลือดสมองแตก จะเป็นการรักษาระดับความดันโลหิต ในบางกรณีแพทย์อาจทำการผ่าตัดเพื่อป้องกันความเสียหายของสมองที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของความดันโลหิต

อาการสำคัญของโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Acute Ischemic Stroke): มักเป็นอาการที่เกิดขึ้นทันทีทันใด
  • B - Balance : เสียการทรงตัว เดินเซ
  • E - Eye : การมองภาพมีปัญหา ตามัว มองเห็นภาพซ้อนหรือตาบอดข้างเดียว
  • F - Face : อาการชาหรืออ่อนแรงที่ใบหน้า ซีกใดซีกหนึ่ง ทำให้มีอาการใบหน้าเบี้ยว ปากเบี้ยว อมน้ำไม่อยู่ น้ำลายไหลออกจากมุมปากข้างที่ตก หรือรู้สึกหนาๆ บริเวณใบหน้า
  • A - Arm : อาการชาหรืออ่อนแรงที่แขนขา ซีกใดซีกหนึ่ง
  • S - Speech : การพูดลำบาก พูดไม่ชัด พูดไม่ออก พูดติดๆ ขัดๆ นึกคำพูดไม่ออก
  • T - Time : หากมีอาการผิดปกติ ควรรีบมาโรงพยาบาลอย่างรวดเร็วภายใน 6 ชั่วโมง ซึ่งแพทย์ผู้ชำนาญการ เฉพาะทางจะสามารถให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดดำ หรือรักษาโดยใช้สายสวนทาง หลอดเลือดแดงเพื่อละลายลิ่มเลือด และเปิดเส้นเลือดได้

ปัจจัยเสี่ยง : มีหลายประการ ดังนี้

1. ปัจจัยเสี่ยงที่ไม่สามารถป้องกันได้ ได้แก่

  • อายุ โดยผู้สูงอายุมีโอกาสเป็นได้มาก เนื่องจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือด
  • เพศชาย มีความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงกว่าเพศหญิง
  • พันธุกรรม คนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคหัวใจขาดเลือด

2. ปัจจัยเสี่ยงที่สามารถป้องกันได้ ได้แก่

  • โรคความดันโลหิตสูง ที่ควบคุมได้ไม่ดี
  • โรคเบาหวาน ในผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี หรือเป็นโรคเบาหวานมาเป็นระยะเวลานาน
  • โรคหัวใจบางประเภท เช่น โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคเกี่ยวกับลิ้นหัวใจ
  • ภาวะการแข็งตัวของเลือดเร็วกว่าปกติ
  • ไขมันในเลือดสูง ทำให้หลอดเลือดแดงเกิดการสะสมไขมันจนมีการตีบหรือตัน
  • การสูบบุหรี่

การป้องกันโรคหลอดเลือดสมองตีบหรืออุดตัน (Ischemic Stroke) :
  • ดูแลตัวเอง โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 5 ครั้งๆ ละ 30 นาที และพักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรตรวจสุขภาพประจำปี โ ดยตรวจวัดระดับความดันโลหิต ระดับน้ำตาลในเลือด และไขมันในเลือด
  • รู้จักป้องกันการเป็นซ้ำ สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการโรคหลอดเลือดสมองและผ่านการรักษาจนพ้นวิกฤตแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
  • เมื่อพบสัญญาณเตือนอันตราย (BEFAST) ควรรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่

ด้วยความปรารถนาดีจาก..ศูนย์หลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหัวเฉียว

  โปรแกรมตรวจคัดกรองความเสี่ยงโรคหลอดเลือดสมอง   ศูนย์หลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลหัวเฉียว

  ค้นหาแพทย์ + นัดหมาย   แพ็คเกจ + โปรโมชั่น   ข่าวสาร - กิจกรรม   งานกิจกรรมเพื่อสังคม   บริการสำหรับผู้ป่วย   โครงการประกันสังคม รพ.หัวเฉียว   สาระเพื่อสุขภาพ

  ติดตาม Huachiew Hospital


  HuaChiew Channel


โรคภัยใกล้ตัว วิธีการรักษาและบำบัด'โรคออฟฟิศซินโดรม' TNN LIFE NEWS โดย พญ.รมณัฏฐ์ โรจนสุทธิ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์ฟื้นฟู คลินิกเวชศาสตร์ฟื้นฟูและกายภาพบำบัด โรงพยาบาลหัวเฉียว
  ดูทั้งหมด